9 พ.ค. 2563
3 พ.ค. 2563
Thesis DD สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า กับคุณภาพอันดับ 1
การสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดข้ึนแก่ลูกค้าผู้ใช้บริการทำวิทยานิพนธ์ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่น และความไว้วางใจยอมรับถึงความซื่อสัตย์ ความเป็นธรรม ซึ่งเราได้ตั้งเป้าหมายของทีมไว้ว่า ควาามซื่อสัตย์ และความรับผิดชอบที่มีต่อลูกค้า เป็นปัจจัยสำคัญอันดับแรกที่เรามุ่งเน้นกระทำซึ่งจะส่งผลต่อความภาคภูมิใจในการให้บริการลูกค้าด้วยความซื้อสัตย์ ไม่เอาเปรียบ หรือทุจริตคดโกงลูกค้าทางใดทางหนึ่ง โดยสิ่งที่เรามอบให้กับลูกค้าทุกท่านนั้นมาจากความตั้งใจสูงสุด เพื่อให้งานของลูกค้ามีประสิทธิภาพสูงสุดเช่นกัน
คงเคยมีคนถามว่าเว็บรับทำวิจัย เว็บไหนมีชื่อเสียงที่สุด คุณภาพงานดีที่สุด ราคาถูกที่สุด รับผิดชอบงานมากที่สุด และคุ้มค้ามากที่สุด คำตอบก็คือ Thesis DD จากการร่วมกันวิเคราะห์ของหัวหน้าทีมทุกสาขา โดยตั้งโจทย์ดังนี้ ข้อแรก มองเฉพาะคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยว่าเว็บใดครบเครื่องและตอบโจทย์ได้ในทุกมิติ ข้อสอง เว็บที่คุ้มค่าจ้างมากที่สุด โดยแบ่งกันไปหาข้อมูลของเว็บอื่นเพื่อนำข้อมูลที่แท้จริงมาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับลูกค้ามากที่สุด โดยกำหนดตัวแปรดังนี้
1. มีทีมงานเหมาะกับงานแต่ละสาขาไม่ใช้คนกลุ่มเดียวทำทุกสาขาสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงได้
2. ราคาหลากหลาย เหมาะสมกับเนื้อหาและเวลา
3. สามารถให้บริการได้หลายสาขาวิชา และใช้โปรแกรทางสถิติได้กี่โปรแกรม
4. ความเชี่ยวชาญ เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ
5. มีการตรวจสอบเนื้อหา ความถูกต้อง มีการควบคุมคุณภาพ การตรวจ copy และอื่น ๆ
และสุดท้ายนำมาวิเคราะห์ความคุ้มค่า และแถมให้หน่อยกับการประเมินความเสี่ยงที่จะเสียงเงินฟรี
ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ มีดังนี้ ส่วนใหญ่ไม่มีการเสนอราคาเป็นเอกสาร ไม่สามารถยืนยันอ้างอิงชื่อ ผู้จัดทำไม่ได้ ไม่ให้มีเอกสารหรือใบเสร็จให้ โดยการอ้างถึง พรบ.การศึกษา และไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงหรือไม่รับงานที่ค่อนข้างซับซ้อนเลย ราคาหลากหลายและแตกต่าง เช่น ดร.ทำ ป.โท ทำ แต่ไม่แจ้งชื่อเพื่อสืบค้นว่าชำนาญด้านใด ไม่ให้เอกสารหรือบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบประวัติการทุจริต
ชำนาญการทำวิจัยด้านคุณภาพไม่ ไม่มีการควบคุมคุณภาพงานอย่างละเอียด
ส่วนความคุ้มค่านั้น พบว่า ราคาจะสูงกว่าคุณภาพของงาน
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ข้อ 1. ระดับคะแนนด้านคุณภาพและความหลากหลาายของ Thesis DD มากสุด และข้อ 2. Thesis DD คุ้มค่ามากที่สุดโดยปัจจัยด้านราคาสูงกว่าคุณภาพเล็กน้อย
ลูกสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบกับการตัดสินใจเลือกใช้เซ้บ รับทำวิทยานิพนธ์ ต่อไป
คงเคยมีคนถามว่าเว็บรับทำวิจัย เว็บไหนมีชื่อเสียงที่สุด คุณภาพงานดีที่สุด ราคาถูกที่สุด รับผิดชอบงานมากที่สุด และคุ้มค้ามากที่สุด คำตอบก็คือ Thesis DD จากการร่วมกันวิเคราะห์ของหัวหน้าทีมทุกสาขา โดยตั้งโจทย์ดังนี้ ข้อแรก มองเฉพาะคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับการทำวิจัยว่าเว็บใดครบเครื่องและตอบโจทย์ได้ในทุกมิติ ข้อสอง เว็บที่คุ้มค่าจ้างมากที่สุด โดยแบ่งกันไปหาข้อมูลของเว็บอื่นเพื่อนำข้อมูลที่แท้จริงมาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดประโยชน์กับลูกค้ามากที่สุด โดยกำหนดตัวแปรดังนี้
1. มีทีมงานเหมาะกับงานแต่ละสาขาไม่ใช้คนกลุ่มเดียวทำทุกสาขาสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงได้
2. ราคาหลากหลาย เหมาะสมกับเนื้อหาและเวลา
3. สามารถให้บริการได้หลายสาขาวิชา และใช้โปรแกรทางสถิติได้กี่โปรแกรม
4. ความเชี่ยวชาญ เชิงปริมาณ เชิงคุณภาพ
5. มีการตรวจสอบเนื้อหา ความถูกต้อง มีการควบคุมคุณภาพ การตรวจ copy และอื่น ๆ
และสุดท้ายนำมาวิเคราะห์ความคุ้มค่า และแถมให้หน่อยกับการประเมินความเสี่ยงที่จะเสียงเงินฟรี
ผลที่ได้จากการวิเคราะห์ มีดังนี้ ส่วนใหญ่ไม่มีการเสนอราคาเป็นเอกสาร ไม่สามารถยืนยันอ้างอิงชื่อ ผู้จัดทำไม่ได้ ไม่ให้มีเอกสารหรือใบเสร็จให้ โดยการอ้างถึง พรบ.การศึกษา และไม่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงหรือไม่รับงานที่ค่อนข้างซับซ้อนเลย ราคาหลากหลายและแตกต่าง เช่น ดร.ทำ ป.โท ทำ แต่ไม่แจ้งชื่อเพื่อสืบค้นว่าชำนาญด้านใด ไม่ให้เอกสารหรือบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบประวัติการทุจริต
ชำนาญการทำวิจัยด้านคุณภาพไม่ ไม่มีการควบคุมคุณภาพงานอย่างละเอียด
ส่วนความคุ้มค่านั้น พบว่า ราคาจะสูงกว่าคุณภาพของงาน
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ข้อ 1. ระดับคะแนนด้านคุณภาพและความหลากหลาายของ Thesis DD มากสุด และข้อ 2. Thesis DD คุ้มค่ามากที่สุดโดยปัจจัยด้านราคาสูงกว่าคุณภาพเล็กน้อย
ลูกสามารถนำข้อมูลไปใช้ประกอบกับการตัดสินใจเลือกใช้เซ้บ รับทำวิทยานิพนธ์ ต่อไป
27 เม.ย. 2563
การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวิจัย (IOC, Reliability)
การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือวิจัย
IOCผลงานวิจัยที่ดีเป็นผลมาจากเครื่องมือวิจัยที่มีคุณภาพผ่านระบบการตรวจสอบที่มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ ได้แก่ แบบทดสอบข้อเขียน แบบวัดประเมินผล แบบสัมภาษณ์ แบบสอบถาม ฯลฯ
ดังที่ได้กล่าวข้างต้นแล้ว เนื้อหาจะมีความเที่ยงตรงได้ก็ต่อเมื่อมีความสอดคล้องกับข้อกำหนด โดยอาศัย
ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้มีประสบการณ์ในการประเมินวิเคราะห์ (face validity) และหาค่าสัมประสิทธิ์ความสอดคล้อง (Indexof Item-Objective Congruence, IOC) ซึ่งมีสูตรดังนี้
โดยให้ IOC ความสอดคล้องระหว่างวัตถุประสงค์กับเนื้อหา
ER ผลรวมของคะแนนจากผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด
N จำนวนผู้เชี่ยวชาญ
เกณฑ์การให้คะแนนเป็น 3 ระดับ คะแนน 1+ เมื่อเนื้อหา มีความสอดคล้อง-1 เมื่อเนื้อหาไม่สอดคล้อง และ 0 เมื่อไม่แน่ใจ แบบทดสอบหรือข้อสอบที่ถือว่ามีความเที่ยงตรงตามเนื้อหาในระดับถือว่ามีความสอดคล้อง (Thesis DD, 2563 : ออนไลน์) สามารถนำไปวัดผลได้มีค่า IOC เท่ากับ x.xx ซึ่งมากกว่า 0.5 จึงนำไปใช้ได้
Reliability ของ Cronbach
ผู้วิจัยได้ทำการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย โดยนำแบบสอบถามไปทดสอบความเชื่อมั่น (Reliability Analysis) กับกลุ่มทดลองที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับประชากรที่ต้องการศึกษา จำนวน 30 ชุด แล้วนำมาวิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบสอบถาม โดยใช้วิธีหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (α-Coefficient) ของครอนบาค (Cronbach, 1974) ซึ่งได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับ (Thesis DD, 2563 : ออนไลน์) เท่ากับ x.xx ซึ่งมากกว่า 0.70 ขึ้นไปจึงนำไปใช้ได้
8 ก.พ. 2563
วิทยานิพนธ์ วิจัย บทความ ระดับเทพ
Thesis DD ที่ปรึกษา #ทำวิทยานิพนธ์ ครบวงจร เช่น #บทความ #แผนธุรกิจ #spss #แปล ฯลฯ
ไม่เท ลูกค้า คือ ไม่โกงลูกค้าในทุกมิติ เช่น รับเงินแล้วเบี้ยวทำวิทยานิพนธ์ ค้นคว้าอิสระ
ไม่ทิ้ง งาน คือ รับผิดชอบงานจนเล่มผ่าน เช่น แก้วิทยานิพนธ์ แก้บทความ แก้วิจัย จนผ่าน
ไม่ถ่วง เวลา คือ แจ้งลูกค้าว่ารับผิดชอบจนจบ แต่ส่งวิทยานิพนธ์ให้แก้ ไม่แก้งานให้ใช้วิธีการถ่วงเวลาลูกค้าไปเรื่อย หรือไม่ก็ติดต่อไม่ได้ เป็นต้น
จากปัญหาดังกล่าวที่ลูกค้าหลายท่านเคยพบเจอในการจ้างทำวิทยานิพนธ์ วิจัย หรือบทความ ซึ่งเป็นความเสียหายที่มีราคาค่อนข้างสูง ยังไม่รวมถึงปัญหาความปลอดภัยด้านข้อมูล การก็อบปี้ การใช้เนื้อหาเดิมส่งให้ลูกค้าคนใหม่ (เปลี่ยนปก) สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากซึ่งหากผู้รับจ้างไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ และเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นผลเสียทั้งหมดจะส่งผลต่อนักศึกษาอย่างร้ายแรงทันที
ดังนั้น TDD จึงขอโอกาส ให้เราได้ดูแล เป็นผู้ช่วยทำวิทยานิพนธ์ วิจัย บทความ และอื่นๆ เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยกันจนถึงเป้าหมาย
ท่านอาจคิดว่าเราโลกสวยสร้างภาพ และเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเรื่องเงินและการกระทำ คือ เงินมีความสำคัญกับเรามาก แต่ที่มีค่ามากกว่าเงิน คือความภาคภูมิใจในหัวใจของเราภายใต้ความซื่อสัตย์สุจริต และที่สำคัญที่สุดคือ ความจริงใจ ดังนั้นเราขอแค่ท่านเปิดใจให้โอกาสเรา. Thesis DD.
ไม่เท ลูกค้า คือ ไม่โกงลูกค้าในทุกมิติ เช่น รับเงินแล้วเบี้ยวทำวิทยานิพนธ์ ค้นคว้าอิสระ
ไม่ทิ้ง งาน คือ รับผิดชอบงานจนเล่มผ่าน เช่น แก้วิทยานิพนธ์ แก้บทความ แก้วิจัย จนผ่าน
ไม่ถ่วง เวลา คือ แจ้งลูกค้าว่ารับผิดชอบจนจบ แต่ส่งวิทยานิพนธ์ให้แก้ ไม่แก้งานให้ใช้วิธีการถ่วงเวลาลูกค้าไปเรื่อย หรือไม่ก็ติดต่อไม่ได้ เป็นต้น
จากปัญหาดังกล่าวที่ลูกค้าหลายท่านเคยพบเจอในการจ้างทำวิทยานิพนธ์ วิจัย หรือบทความ ซึ่งเป็นความเสียหายที่มีราคาค่อนข้างสูง ยังไม่รวมถึงปัญหาความปลอดภัยด้านข้อมูล การก็อบปี้ การใช้เนื้อหาเดิมส่งให้ลูกค้าคนใหม่ (เปลี่ยนปก) สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากซึ่งหากผู้รับจ้างไร้สำนึก ไร้ความรับผิดชอบ และเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นผลเสียทั้งหมดจะส่งผลต่อนักศึกษาอย่างร้ายแรงทันที
ดังนั้น TDD จึงขอโอกาส ให้เราได้ดูแล เป็นผู้ช่วยทำวิทยานิพนธ์ วิจัย บทความ และอื่นๆ เป็นพาร์ทเนอร์ที่ช่วยกันจนถึงเป้าหมาย
ท่านอาจคิดว่าเราโลกสวยสร้างภาพ และเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเรื่องเงินและการกระทำ คือ เงินมีความสำคัญกับเรามาก แต่ที่มีค่ามากกว่าเงิน คือความภาคภูมิใจในหัวใจของเราภายใต้ความซื่อสัตย์สุจริต และที่สำคัญที่สุดคือ ความจริงใจ ดังนั้นเราขอแค่ท่านเปิดใจให้โอกาสเรา. Thesis DD.
4 ก.พ. 2563
15 แนวคิดที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล
15 แนวคิดที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปตลอดกาล ภายใน 5 นาที (บทความแปล)
ผมไม่เคยบอกว่าชีวิตนั้นมันง่ายเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไป คือ อะไรก็ตามที่เราคิด หรือเราอยู่กับมันนานๆ สุดท้ายมันจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราเป็นคนยังไง ซึ่งทุกคนก็คงอยากที่จะประสบความสำเร็จ มีความสุขกันใช่ไหมล่ะ แต่วิธีการ “คิด” อย่างไรที่จะให้ได้ผลลัพธ์แบบที่ต้องการเนี่ย มันยากมากๆ หลายๆ คนเลยไม่ได้ทุ่มเทให้กับมันมากพอ (ก็เพราะมันยาก) ซึ่งมีประโยคหนึ่งที่ถูกกล่าวออกมาโดย Helen Keller ว่า
People don’t like to think, if one thinks, one must reach conclusions. Conclusions are not always pleasant.
อธิบายได้ประมาณว่า คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการคิด ไม่ชอบการตั้งเป้าหมาย เพราะเมื่อคิด คาดหวังแล้ว ลงมือทำแล้ว บางครั้งสุดท้ายผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นดังที่หวังไว้ก็เป็นได้ ฟังดูมันก็เจ็บปวดเหมือนกันนะครับ แต่ชีวิตก็แบบนี้แหละครับ
ถ้าผมบอกว่ามีวิธีคิด 15 แบบที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของคุณไปตลอดกาลล่ะ? พร้อมนะ มาดูกันทีละข้อเลย
1: คิดใหญ่ แต่ให้เริ่มทำจากจุดเล็ก
ต้องการที่จะสร้างบริษัทใหญ่โตไหม? ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคุณหมู่มากไหม? ต้องการสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์กับคนทั้งโลกไหม? ต้องการเป็นเศรษฐีพันล้านไหม? ซึ่งก็แน่นอน ทุกคน “อยาก” แต่มันจะไม่มีทางที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้เลย ถ้าเกิดเรามีความคิดบางอย่างแบบด้านล่างขวางกั้นตัวเองเอาไว้ มันยากเกินไป ทำไม่ได้หรอก
มันมีคนทำไปเรียบร้อยแล้ว เราสู้เขาไม่ได้หรอก
แล้วมีอะไรดีขึ้นไหมล่ะ?
เราต้องวางเป้าหมายให้สูงเข้าไว้สิ ยังไงเราก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ความล้มเหลวก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเหมือนกัน แค่ให้แน่ใจว่าเราเริ่มทำจากสิ่งเล็กๆ หมั่นทำมันบ่อยๆ ให้คิดว่าสิ่งเดียวที่เราต้องการก็คือ เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ถ้เราาตั้งเป้าหมายไว้ต่ำเกินไป ผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบต่ำๆ เช่นกัน
2: ปัญหาต่างๆ ก็เป็นแค่คำถามที่ยังหาคำตอบไม่เจอ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาคนเราชอบตื่นตระหนกเวลาเจอปัญหาใหญ่ๆ บางคนก็บอกว่า “มันเลวร้ายที่สุด ตั้งแต่เคยเจอมาแล้ว” ทุกครั้งๆ ที่เราใส่ความคิดเครียดๆ แบบนี้ ก็เหมือนกับการบั่นทอนชีวิตของเราเองไปเรื่อยๆ จนพังทลายลงไปในที่สุด ให้เราคิดแบบนี้แทนว่า
ปัญหามันก็แค่คำถามธรรมดาของชีวิต หรืออาจจะยากบ้าง ที่ยังหาคำตอบไม่เจอก็เท่านั้นเอง ให้เราใช้สติ พยายามหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น ก็เท่านั้นเอง
3: สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ให้มั่นคงด้วยความรัก
มีเหตุผลหลายๆ อย่าง ที่ทำให้มนุษย์ต้องออกไปแสวงหาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เช่น เรื่องเงิน ความกลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความต้องการให้คนอื่นสนใจในตัวเรา เป็นต้น ซึ่งไหนๆ มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่แล้ว ก็ให้มองมันในรูปแบบของ “ความรัก” ซะเลย เพราะเมื่อเรารักใครเข้าแล้ว เราก็คงไม่สามารถที่จะรู้สึกเกลียดเขาได้ในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นความมั่นคงของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้อื่นควรจะต้องมีพื้นฐานมาจาก ความรัก ความเคารพให้เกียรติ การเชื่อใจกัน ความอดทน เพื่อนร่วมงานที่ดี เสียงหัวเราะ
4: ไม่มีของฟรีในโลก
ไม่สำคัญว่าเราจะทำอะไร แต่บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ในชีวิตแน่ๆ เราต้องจ่าย “เงิน” หรือ “เวลา” โดยเฉพาะเวลาซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อแลกกับสิ่งที่เราต้องการ
ชีวิตคนเรามันก็เหมือนการทำธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งนักธุรกิจเก่งๆ เขาใช้เวลาที่มีอยู่ทุกนาทีอย่างคุ้มค่า ถามว่าเขาทำได้อย่างไร? ตอบได้ง่ายๆ เลย คือ เขา “ประเมิน” ว่าสิ่งไหนทำแล้วคุ้มกับเวลาที่เสียไป ถึงจะทำ และรู้จัก “ปฏิเสธ” ในสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วย เพราะการปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ถือเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่พวกเขาเหล่านี้จะทำเลยทีเดียว
5: อย่ากลัวที่จะตัดสินใจ
บางครั้งเราอาจจะคิดว่า การที่เราอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องตัดสินใจอะไรในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะทำให้เราปราศจากความผิดพลาด แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่อันตรายที่สุดก็คือการที่เราไม่ทำอะไรเลยเนี่ยแหละ เช่น การรอคอยคนอื่นมาทำแทน การผลัดวันประกันพรุ่ง การตั้งข้อสงสัยมากเกินไปแต่ไม่ลงมือทำ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ช่วยให้ประโยชน์กับชีวิตเราขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อถึงเวลา จงกล้าที่จะตัดสินใจ “เลือก” อย่างหนักแน่น ถึงแม้ถ้าท้ายที่สุดแล้วเราตัดสินใจผิด ก็ไปขอโทษ ขออภัยกัน และเลือกตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ยังดีเสียกว่าไม่ยอมตัดสินใจเสียอีก
6: เป็นผู้นำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในบางครั้งคนเราเป็นผู้นำ บางครั้งก็เป็นผู้ตาม ตอนอยู่ที่ทำงานเราอาจจะเป็นผู้นำ และกลายเป็นผู้ตามเมื่อกลับถึงบ้าน ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเลย
เมื่อเรารู้ว่า อะไรผิด และพบว่าคนอื่นๆ หันไปมองรอบๆ เพราะไม่มีใครอยากที่จะรับผิดชอบในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณกล้าที่จะแบกความรับผิดชอบไว้ นั่นแหละ คุณคือผู้นำที่แท้จริง มันคือคุณ
7: มีความรู้สึกที่เป็นเจ้าของ ในสิ่งที่ตนทำอย่างภาคภูมิใจ
มีสิ่งเดียวเท่านั้น ที่ช่วยให้คุณจากการที่ไม่มีอะไรเลย เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ ก็คือ การทำงาน เพราะฉะนั้นแล้ว เวลาทำงานใดๆ ก็ตาม ให้ทำอย่างเต็มที่ มีความคิด ความรู้สึก เหมือนมันเป็นลูกของเรา แล้วผลลัพธ์จะออกมาอย่างดีเยี่ยมเอง
8: มองตัวเองเหมือนเป็นพนักงานขาย
จริงๆ แล้วทุกคนก็คือพนักงานขายนั่นแหละ อย่างเช่น เวลาคุณไปออกเดทกับหนุ่มหรือสาว คุณก็จะขายใสสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองทำ พยายามทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจในตัวคุณให้ได้ หรือในการสมัครงานก็เช่นกัน คุณต้องทำให้บริษัทเชื่อให้ได้ว่า ถ้าเขารับคุณเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ผิดหวัง
เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่คุณ “ขาย” จงทำตัวให้โปร่งใส ซื่อสัตย์ และเลือกเป้าหมายที่คุณจะ “ขาย” ให้ถูกด้วย ไม่ต้องไปเสียเวลากับคนที่ไม่ชอบคุณ การขายไม่ใช่การมานั่งคิดว่าจะมีคนที่ไม่ชอบสินค้าหรือตัวคุณมากน้อยแค่ไหน แต่เป็นการมองหาคนที่ใช่ต่างหาก
9: ถ้าอยากเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง จงหมั่นฝึกฝน
ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อย่าไปเสียเวลามากกับการหาแรงบันดาลใจจากที่อื่น เช่น หนังสือ โพส talk เป็นต้น
ให้จำไว้เลยว่า การที่คุณจะมีความมั่นใจในการทำสิ่งใดๆ มันเกิดจากเรียนรู้ ลงมือทำ วิเคราะห์ผลลัพธ์ นำมาปรับปรุงแก้ไข หลังจากนั้นก็วนลูปแบบเดิมไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะความมั่นใจนั้นมันจะค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ ทุกวัน นั่นเอง
10: ให้ความสำคัญกับมิตรสหาย
มนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ถ้าคุณอยู่ลำพัง คุณจะตายก่อนเป็นอันดับแรก คุณอาจจะคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็ได้ แต่สุดท้ายคุณก็พยายามผูกมิตรกับคนอื่นไปโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉะนั้นแล้ว จงให้ความสำคัญกับเพื่อน และยอมรับด้วยว่าเขาก็ต้องมีชีวิตในแบบของพวกเขาเช่นกัน
เมื่อระยะเวลาผ่านไป เมื่อความคิดของคุณโตมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และมีเวลาน้อยลง หลายสิ่งหลายอย่างแปรเปลี่ยนไป คุณเปลี่ยน ผู้คนเปลี่ยน แต่มิตรภาพระหว่างคุณกับเพื่อนเท่านั้นที่จะยังคงอยู่เช่นเดิม
11: อย่าเชื่อในทุกสิ่งที่เห็น
มนุษย์เราอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องการมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับยอมรับจากคนอื่น ซึ่งพวกเขาก็จะพยายามแสดงออกมาในสิ่งที่เราอยากเห็น หรือทำให้เขาดูดี
เพราะฉะนั้นแล้วอย่าเชื่อในทุกๆ เรื่องราวความสำเร็จของคนอื่นที่คุณได้พบเจอมา ไม่ว่าจะเป็น YouTubers, นางแบบต่างๆ ใน Instagram, เศรษฐีเงินล้านจากการทำธุรกิจ มันก็จริงอยู่ที่ว่า พวกเขาเหล่านั้นดูดี ไร้ที่ติ แต่จริงๆ แล้วคุณมองเห็นแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่คุณก็ห้ามไปมองพวกเขาในแง่ร้ายนะ แค่อย่าสนใจกับเปลือกนอกมากจนเกินไปก็พอ
12: เรียนรู้ที่จะรับฟังคำวิจารณ์
เวลามีใครก็ตามมาวิจารณ์คุณ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงที่ดีหรือไม่ดีก็ตามแต่ คุณควรจะขอบคุณเขา เพราะว่ามันเหมือนเป็นแหล่งพลังงานในการขับดันให้ชีวิตคุณก้าวต่อไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี
คุณสามารถที่จะนำคำวิจารณ์เหล่านั้นมาพัฒนาตัวคุณ ผลิตภัณฑ์ของคุณ บริการต่างๆ ของคุณ หรือถ้าในบางครั้งคำวิจารณ์เหล่านั้นมันฟังดูไร้สาระเหลือเกิน แน่นอนมันอาจทำให้คุณเกิดอาการหัวร้อนได้ แต่มันก็จะเป็นพลังให้คุณพิสูจน์ว่า นายนั่นแหละที่ไร้สาระ ได้เช่นกัน
13: ถ้าคุณดูแลสุขภาพตัวเองไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถดูแลอะไรได้เลย
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่คุณก็รู้อยู่เต็มอกว่า คนเราไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายเราให้ได้ดั่งใจ 100% เต็ม ทำได้ดีสุดก็แค่ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และอย่าใช้ร่างกายตัวเองหักโหมจนเกินไป พักผ่อนเสียบ้าง และไม่ใช่ว่าทำแค่ไม่กี่วันแล้วเลิก แต่ควรจะทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอด้วย ถ้าบอกว่า “เวลา” ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ “สุขภาพ” ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกเนอะ
14: จงเลือกที่จะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา
มีเพียงตัวคุณเองเท่านั้นที่ควบคุมความคิดของตนเองได้ ซึ่งมันส่งผลกับสิ่งที่คุณจะทำต่อไปในภายภาคหน้า ถ้าคุณเลือกที่จะไม่พอใจ โกรธ สิ้นหวัง นั่นแหละ คือ ตัวคุณเองในอนาคต
บางครั้งคนเราก็มีความคิดที่ว่า “ฉันไม่สามารถมีความสุขได้ ฉันต้องรวย ซื้อรถหรูๆ ขับ มีบ้านหลังใหญ่ๆ อยู่” แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย คุณสามารถที่จะมีความสุขได้ในทุกๆ ขณะของช่วงชีวิต มันขึ้นอยู่กับมุมมองชีวิตของคุณเองต่างหาก ว่าเลือกที่จะมองมันแบบไหน
15: สร้างบางสิ่งบางอย่าง
เมื่อคุณกำลังเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างในทางที่ดี ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นอะไร แต่คุณกำลังทำมันแล้วนี่ คุณอาจจะช่วยแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ ได้ หรือไม่ก็ให้ความบันเทิงกับพวกเขาเหล่านั้นได้ มองยังไงก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นแล้ว จงอย่ารอที่จะบริโภคข้อมูล สินค้า หรือความบันเทิงต่างๆ จากคนอื่นเพียงฝ่ายเดียว แต่ให้ลองสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อคนอื่นบ้าง ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำคนเดียวก็ได้ ทำกันเป็นคู่ เป็นกลุ่ม ก็ว่ากันไป ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณ หรือเพื่อนคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ขอแค่ทำตนเองให้มีประโยชน์ก็เพียงพอแล้ว
ก็คร่าวๆ ประมาณนี้แหละครับ ยาวพอสมควรเลยทีเดียว อย่าลืมนะครับ ความคิดของเราจะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเรา เพราะฉะนั้น จงเลือกให้ดีครับ สำหรับวันนี้ลากันไปเพียงเท่านี้ก่อน พบกันใหม่ บทความหน้า สวัสดีครับ
:)
ที่มา : Kittisak Phetrungnapha, 2017
ผมไม่เคยบอกว่าชีวิตนั้นมันง่ายเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไป คือ อะไรก็ตามที่เราคิด หรือเราอยู่กับมันนานๆ สุดท้ายมันจะกลายเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเราเป็นคนยังไง ซึ่งทุกคนก็คงอยากที่จะประสบความสำเร็จ มีความสุขกันใช่ไหมล่ะ แต่วิธีการ “คิด” อย่างไรที่จะให้ได้ผลลัพธ์แบบที่ต้องการเนี่ย มันยากมากๆ หลายๆ คนเลยไม่ได้ทุ่มเทให้กับมันมากพอ (ก็เพราะมันยาก) ซึ่งมีประโยคหนึ่งที่ถูกกล่าวออกมาโดย Helen Keller ว่า
People don’t like to think, if one thinks, one must reach conclusions. Conclusions are not always pleasant.
อธิบายได้ประมาณว่า คนส่วนใหญ่ไม่ชอบการคิด ไม่ชอบการตั้งเป้าหมาย เพราะเมื่อคิด คาดหวังแล้ว ลงมือทำแล้ว บางครั้งสุดท้ายผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นดังที่หวังไว้ก็เป็นได้ ฟังดูมันก็เจ็บปวดเหมือนกันนะครับ แต่ชีวิตก็แบบนี้แหละครับ
ถ้าผมบอกว่ามีวิธีคิด 15 แบบที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิตของคุณไปตลอดกาลล่ะ? พร้อมนะ มาดูกันทีละข้อเลย
1: คิดใหญ่ แต่ให้เริ่มทำจากจุดเล็ก
ต้องการที่จะสร้างบริษัทใหญ่โตไหม? ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคุณหมู่มากไหม? ต้องการสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์กับคนทั้งโลกไหม? ต้องการเป็นเศรษฐีพันล้านไหม? ซึ่งก็แน่นอน ทุกคน “อยาก” แต่มันจะไม่มีทางที่จะเป็นจริงขึ้นมาได้เลย ถ้าเกิดเรามีความคิดบางอย่างแบบด้านล่างขวางกั้นตัวเองเอาไว้ มันยากเกินไป ทำไม่ได้หรอก
มันมีคนทำไปเรียบร้อยแล้ว เราสู้เขาไม่ได้หรอก
แล้วมีอะไรดีขึ้นไหมล่ะ?
เราต้องวางเป้าหมายให้สูงเข้าไว้สิ ยังไงเราก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ความล้มเหลวก็เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเหมือนกัน แค่ให้แน่ใจว่าเราเริ่มทำจากสิ่งเล็กๆ หมั่นทำมันบ่อยๆ ให้คิดว่าสิ่งเดียวที่เราต้องการก็คือ เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่เราวางเอาไว้ตั้งแต่แรก แต่ถ้เราาตั้งเป้าหมายไว้ต่ำเกินไป ผลลัพธ์ก็จะออกมาแบบต่ำๆ เช่นกัน
2: ปัญหาต่างๆ ก็เป็นแค่คำถามที่ยังหาคำตอบไม่เจอ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาคนเราชอบตื่นตระหนกเวลาเจอปัญหาใหญ่ๆ บางคนก็บอกว่า “มันเลวร้ายที่สุด ตั้งแต่เคยเจอมาแล้ว” ทุกครั้งๆ ที่เราใส่ความคิดเครียดๆ แบบนี้ ก็เหมือนกับการบั่นทอนชีวิตของเราเองไปเรื่อยๆ จนพังทลายลงไปในที่สุด ให้เราคิดแบบนี้แทนว่า
ปัญหามันก็แค่คำถามธรรมดาของชีวิต หรืออาจจะยากบ้าง ที่ยังหาคำตอบไม่เจอก็เท่านั้นเอง ให้เราใช้สติ พยายามหาคำตอบของคำถามเหล่านั้น ก็เท่านั้นเอง
3: สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ให้มั่นคงด้วยความรัก
มีเหตุผลหลายๆ อย่าง ที่ทำให้มนุษย์ต้องออกไปแสวงหาความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เช่น เรื่องเงิน ความกลัวที่จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว ความต้องการให้คนอื่นสนใจในตัวเรา เป็นต้น ซึ่งไหนๆ มันก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่แล้ว ก็ให้มองมันในรูปแบบของ “ความรัก” ซะเลย เพราะเมื่อเรารักใครเข้าแล้ว เราก็คงไม่สามารถที่จะรู้สึกเกลียดเขาได้ในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นความมั่นคงของความสัมพันธ์ระหว่างเรากับผู้อื่นควรจะต้องมีพื้นฐานมาจาก ความรัก ความเคารพให้เกียรติ การเชื่อใจกัน ความอดทน เพื่อนร่วมงานที่ดี เสียงหัวเราะ
4: ไม่มีของฟรีในโลก
ไม่สำคัญว่าเราจะทำอะไร แต่บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ในชีวิตแน่ๆ เราต้องจ่าย “เงิน” หรือ “เวลา” โดยเฉพาะเวลาซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อแลกกับสิ่งที่เราต้องการ
ชีวิตคนเรามันก็เหมือนการทำธุรกิจประเภทหนึ่ง ซึ่งนักธุรกิจเก่งๆ เขาใช้เวลาที่มีอยู่ทุกนาทีอย่างคุ้มค่า ถามว่าเขาทำได้อย่างไร? ตอบได้ง่ายๆ เลย คือ เขา “ประเมิน” ว่าสิ่งไหนทำแล้วคุ้มกับเวลาที่เสียไป ถึงจะทำ และรู้จัก “ปฏิเสธ” ในสิ่งที่ไม่จำเป็นด้วย เพราะการปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ ถือเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่พวกเขาเหล่านี้จะทำเลยทีเดียว
5: อย่ากลัวที่จะตัดสินใจ
บางครั้งเราอาจจะคิดว่า การที่เราอยู่เฉยๆ โดยไม่ต้องตัดสินใจอะไรในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จะทำให้เราปราศจากความผิดพลาด แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่อันตรายที่สุดก็คือการที่เราไม่ทำอะไรเลยเนี่ยแหละ เช่น การรอคอยคนอื่นมาทำแทน การผลัดวันประกันพรุ่ง การตั้งข้อสงสัยมากเกินไปแต่ไม่ลงมือทำ เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันไม่ได้ช่วยให้ประโยชน์กับชีวิตเราขึ้นมาเลย เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อถึงเวลา จงกล้าที่จะตัดสินใจ “เลือก” อย่างหนักแน่น ถึงแม้ถ้าท้ายที่สุดแล้วเราตัดสินใจผิด ก็ไปขอโทษ ขออภัยกัน และเลือกตัดสินใจใหม่อีกครั้ง ยังดีเสียกว่าไม่ยอมตัดสินใจเสียอีก
6: เป็นผู้นำตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ในบางครั้งคนเราเป็นผู้นำ บางครั้งก็เป็นผู้ตาม ตอนอยู่ที่ทำงานเราอาจจะเป็นผู้นำ และกลายเป็นผู้ตามเมื่อกลับถึงบ้าน ซึ่งก็ไม่เห็นจะมีอะไรผิดเลย
เมื่อเรารู้ว่า อะไรผิด และพบว่าคนอื่นๆ หันไปมองรอบๆ เพราะไม่มีใครอยากที่จะรับผิดชอบในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ถ้าคุณกล้าที่จะแบกความรับผิดชอบไว้ นั่นแหละ คุณคือผู้นำที่แท้จริง มันคือคุณ
7: มีความรู้สึกที่เป็นเจ้าของ ในสิ่งที่ตนทำอย่างภาคภูมิใจ
มีสิ่งเดียวเท่านั้น ที่ช่วยให้คุณจากการที่ไม่มีอะไรเลย เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ ก็คือ การทำงาน เพราะฉะนั้นแล้ว เวลาทำงานใดๆ ก็ตาม ให้ทำอย่างเต็มที่ มีความคิด ความรู้สึก เหมือนมันเป็นลูกของเรา แล้วผลลัพธ์จะออกมาอย่างดีเยี่ยมเอง
8: มองตัวเองเหมือนเป็นพนักงานขาย
จริงๆ แล้วทุกคนก็คือพนักงานขายนั่นแหละ อย่างเช่น เวลาคุณไปออกเดทกับหนุ่มหรือสาว คุณก็จะขายใสสิ่งที่ตัวเองมี ตัวเองทำ พยายามทำให้อีกฝ่ายเชื่อใจในตัวคุณให้ได้ หรือในการสมัครงานก็เช่นกัน คุณต้องทำให้บริษัทเชื่อให้ได้ว่า ถ้าเขารับคุณเข้ามาแล้ว เขาจะไม่ผิดหวัง
เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อใดก็ตามที่คุณ “ขาย” จงทำตัวให้โปร่งใส ซื่อสัตย์ และเลือกเป้าหมายที่คุณจะ “ขาย” ให้ถูกด้วย ไม่ต้องไปเสียเวลากับคนที่ไม่ชอบคุณ การขายไม่ใช่การมานั่งคิดว่าจะมีคนที่ไม่ชอบสินค้าหรือตัวคุณมากน้อยแค่ไหน แต่เป็นการมองหาคนที่ใช่ต่างหาก
9: ถ้าอยากเพิ่มความมั่นใจในตัวเอง จงหมั่นฝึกฝน
ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจในสิ่งที่ทำเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม อย่าไปเสียเวลามากกับการหาแรงบันดาลใจจากที่อื่น เช่น หนังสือ โพส talk เป็นต้น
ให้จำไว้เลยว่า การที่คุณจะมีความมั่นใจในการทำสิ่งใดๆ มันเกิดจากเรียนรู้ ลงมือทำ วิเคราะห์ผลลัพธ์ นำมาปรับปรุงแก้ไข หลังจากนั้นก็วนลูปแบบเดิมไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะความมั่นใจนั้นมันจะค่อยๆ เติบโตอย่างช้าๆ ทุกวัน นั่นเอง
10: ให้ความสำคัญกับมิตรสหาย
มนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ถ้าคุณอยู่ลำพัง คุณจะตายก่อนเป็นอันดับแรก คุณอาจจะคิดว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนก็ได้ แต่สุดท้ายคุณก็พยายามผูกมิตรกับคนอื่นไปโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ดีนั่นแหละ เพราะฉะนั้นแล้ว จงให้ความสำคัญกับเพื่อน และยอมรับด้วยว่าเขาก็ต้องมีชีวิตในแบบของพวกเขาเช่นกัน
เมื่อระยะเวลาผ่านไป เมื่อความคิดของคุณโตมากขึ้น มีความรับผิดชอบมากขึ้น และมีเวลาน้อยลง หลายสิ่งหลายอย่างแปรเปลี่ยนไป คุณเปลี่ยน ผู้คนเปลี่ยน แต่มิตรภาพระหว่างคุณกับเพื่อนเท่านั้นที่จะยังคงอยู่เช่นเดิม
11: อย่าเชื่อในทุกสิ่งที่เห็น
มนุษย์เราอาศัยอยู่ในโลกที่ต้องการมีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับยอมรับจากคนอื่น ซึ่งพวกเขาก็จะพยายามแสดงออกมาในสิ่งที่เราอยากเห็น หรือทำให้เขาดูดี
เพราะฉะนั้นแล้วอย่าเชื่อในทุกๆ เรื่องราวความสำเร็จของคนอื่นที่คุณได้พบเจอมา ไม่ว่าจะเป็น YouTubers, นางแบบต่างๆ ใน Instagram, เศรษฐีเงินล้านจากการทำธุรกิจ มันก็จริงอยู่ที่ว่า พวกเขาเหล่านั้นดูดี ไร้ที่ติ แต่จริงๆ แล้วคุณมองเห็นแต่เพียงภายนอกเท่านั้น แต่คุณก็ห้ามไปมองพวกเขาในแง่ร้ายนะ แค่อย่าสนใจกับเปลือกนอกมากจนเกินไปก็พอ
12: เรียนรู้ที่จะรับฟังคำวิจารณ์
เวลามีใครก็ตามมาวิจารณ์คุณ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงที่ดีหรือไม่ดีก็ตามแต่ คุณควรจะขอบคุณเขา เพราะว่ามันเหมือนเป็นแหล่งพลังงานในการขับดันให้ชีวิตคุณก้าวต่อไปข้างหน้าได้เป็นอย่างดี
คุณสามารถที่จะนำคำวิจารณ์เหล่านั้นมาพัฒนาตัวคุณ ผลิตภัณฑ์ของคุณ บริการต่างๆ ของคุณ หรือถ้าในบางครั้งคำวิจารณ์เหล่านั้นมันฟังดูไร้สาระเหลือเกิน แน่นอนมันอาจทำให้คุณเกิดอาการหัวร้อนได้ แต่มันก็จะเป็นพลังให้คุณพิสูจน์ว่า นายนั่นแหละที่ไร้สาระ ได้เช่นกัน
13: ถ้าคุณดูแลสุขภาพตัวเองไม่ได้ คุณก็ไม่สามารถดูแลอะไรได้เลย
ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่คุณก็รู้อยู่เต็มอกว่า คนเราไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายเราให้ได้ดั่งใจ 100% เต็ม ทำได้ดีสุดก็แค่ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และอย่าใช้ร่างกายตัวเองหักโหมจนเกินไป พักผ่อนเสียบ้าง และไม่ใช่ว่าทำแค่ไม่กี่วันแล้วเลิก แต่ควรจะทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอด้วย ถ้าบอกว่า “เวลา” ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้ “สุขภาพ” ก็คงไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกเนอะ
14: จงเลือกที่จะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา
มีเพียงตัวคุณเองเท่านั้นที่ควบคุมความคิดของตนเองได้ ซึ่งมันส่งผลกับสิ่งที่คุณจะทำต่อไปในภายภาคหน้า ถ้าคุณเลือกที่จะไม่พอใจ โกรธ สิ้นหวัง นั่นแหละ คือ ตัวคุณเองในอนาคต
บางครั้งคนเราก็มีความคิดที่ว่า “ฉันไม่สามารถมีความสุขได้ ฉันต้องรวย ซื้อรถหรูๆ ขับ มีบ้านหลังใหญ่ๆ อยู่” แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย คุณสามารถที่จะมีความสุขได้ในทุกๆ ขณะของช่วงชีวิต มันขึ้นอยู่กับมุมมองชีวิตของคุณเองต่างหาก ว่าเลือกที่จะมองมันแบบไหน
15: สร้างบางสิ่งบางอย่าง
เมื่อคุณกำลังเริ่มทำบางสิ่งบางอย่างในทางที่ดี ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นอะไร แต่คุณกำลังทำมันแล้วนี่ คุณอาจจะช่วยแก้ปัญหาให้กับคนอื่นๆ ได้ หรือไม่ก็ให้ความบันเทิงกับพวกเขาเหล่านั้นได้ มองยังไงก็เป็นประโยชน์ทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นแล้ว จงอย่ารอที่จะบริโภคข้อมูล สินค้า หรือความบันเทิงต่างๆ จากคนอื่นเพียงฝ่ายเดียว แต่ให้ลองสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ เพื่อคนอื่นบ้าง ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำคนเดียวก็ได้ ทำกันเป็นคู่ เป็นกลุ่ม ก็ว่ากันไป ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณ หรือเพื่อนคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ ขอแค่ทำตนเองให้มีประโยชน์ก็เพียงพอแล้ว
ก็คร่าวๆ ประมาณนี้แหละครับ ยาวพอสมควรเลยทีเดียว อย่าลืมนะครับ ความคิดของเราจะเป็นตัวกำหนดชีวิตของเรา เพราะฉะนั้น จงเลือกให้ดีครับ สำหรับวันนี้ลากันไปเพียงเท่านี้ก่อน พบกันใหม่ บทความหน้า สวัสดีครับ

ที่มา : Kittisak Phetrungnapha, 2017
28 ม.ค. 2563
การมีส่วนร่วม
การมีส่วนร่วม
ความหมาย
การมีส่วนร่วมของประชาชน หมายถึง กระบวนการ หรือกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นแล้วมีความร่วมมือจากประชาชนในทุกมิติ เช่น ร่วมใช้ความคิด เสนอความคิดเห็น ร่วมตัดสินใจ รับฟังความคิดเห็น ประชาพิจารณ์ มีส่วนร่วม หรือช่วยกัน เป็นต้น
ความสำคัญของการมีส่วนร่วม
1. เป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคคล
2. เกิดความรัก ความหวงแหน ความรับผิดชอบ ความสามัคคี
3. ทำให้โครงการ หรือกิจกรรมดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะสม
4. การมีส่วนร่วมจะช่วยลดความขัดแย้ง เกิดความรู้สึกผูกพัน รู้สึกเป็นเจ้าของมากขึ้น
5. ทำให้การพัฒนาเกิดความยั่งยืน
ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม
1. การเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของประชาชน
2. จิตอาสา และเห็นประโยชน์ของส่วนร่วมเป็นหลัก
3. รางวัลตอบแทน หรือส่วนได้เสีย ผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ความหมาย
การมีส่วนร่วมของประชาชน หมายถึง กระบวนการ หรือกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นแล้วมีความร่วมมือจากประชาชนในทุกมิติ เช่น ร่วมใช้ความคิด เสนอความคิดเห็น ร่วมตัดสินใจ รับฟังความคิดเห็น ประชาพิจารณ์ มีส่วนร่วม หรือช่วยกัน เป็นต้น
ความสำคัญของการมีส่วนร่วม
1. เป็นการพัฒนาศักยภาพของบุคคล
2. เกิดความรัก ความหวงแหน ความรับผิดชอบ ความสามัคคี
3. ทำให้โครงการ หรือกิจกรรมดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เหมาะสม
4. การมีส่วนร่วมจะช่วยลดความขัดแย้ง เกิดความรู้สึกผูกพัน รู้สึกเป็นเจ้าของมากขึ้น
5. ทำให้การพัฒนาเกิดความยั่งยืน
ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วม
1. การเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจของประชาชน
2. จิตอาสา และเห็นประโยชน์ของส่วนร่วมเป็นหลัก
3. รางวัลตอบแทน หรือส่วนได้เสีย ผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
10 ม.ค. 2563
รู้ทัน รับทำวิทยานิพนธ์ is วิจัย
📣ไม่อยากเสียโง่ 😔เสียเงิน 💰เสียอารมณ์ 😵เข้ามาชมก็แล้วกัน...
คนเราก็คงจะมีบางสิ่งหรือบางเรื่องที่ทำให้เราเกิดอาการหัวร้อน😡 เช่น โดนด่า โดนนินทา โดนตบ ดูถูก โอ๊ยอีกเป็นล้านเรื่อง
🤔แต่สำหรับผมคือ โดนหลอกหรือเสียรู้ เช่น แชร์ลูกโซ่ ซื้อของแล้วโดนโกง ตกทอง เหตุการณ์อะไรประมาณนี้ (ตัวอย่างที่ยกมา..ก็ยังไม่เคยนะครับ 555 อยู่รอดปลอดภัยมาได้)
และเวลาลูกค้าติดต่อเรื่องวิทยานิพนธ์ ลูกค้าก็จะเล่าประสบการณ์โดนโกง โดนเท โดนถ่วง และอีกหลายเรื่อง พอผมได้ฟังผมก็รู้สึกว่ามันขัดใจ😡😤
มันหงุดหงิดติดอยู่ในใจผมไม่รู้เพราะอะไร
ตอนที่ผมเริ่มธุรกิจ Thesis DD📚 ผมก็🕵️♂สืบค้นรับทำวิจัย ลองถามที่รับทำวิทยานิพนธ์ เช็คตลาด ก็มีร้านรับทำวิทยานิพนธ์ที่ดีอยู่บ้าง..ร้านที่ดูแล้วแปลกๆ ก็เยอะ
ซึ่งผมก็ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์🤔กับ ดร.มนัสยา จนได้ข้อสรุปหรือแนวทางการเลือกร้านทำวิจัย ดังนี้ (จริงๆ แล้วผมต้องเชียร์ Thesis DD ดิ โถ่เอ้ย..😁😃😅)
1. รีบร้อน รวบรัด มักมีพิรุธ เช่น เร่งให้เราตัดสินใจจนเกินเหตุ อ้างเหตุผลงานเดียวงานเยอะรีบวางมัดจำจะได้จองคิว เดี๋ยวไม่ทัน บร่าๆๆๆ❌
2. คำพูด การอ้างประสบการณ์ โฆษณาเกินจริง เช่น บางร้านไม่แก้ไขงานให้ลูกค้าเพราะว่าคุณภาพงานดีมาก หรือประสบการณ์มากกว่าพันปี
ทีมงานคุณภาพเวอร์❌ ข้อนี้ผมบอกเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำวิจัย คือ อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก ที่เป็นคนกำหนดทิศทางให้นักศึกษา✔
3. เอาเปรียบ คือ การเสนอราคาให้ทราบ โดยต้องมีการตอบตกลงทั้งสองฝ่ายถึงจะวางมัดจำได้ บางที่ใช้การขอเบอร์โทรคุยลูกค้าอาจคิดว่า
ดีที่ได้มีการพูดคุย แต่สุดท้ายเงื่อนไขต่างๆ ร้านไม่ได้ทำให้ เราก็ไม่มีหลักฐานสุดท้ายก็เจ็บ หรือแค่ขอใบเสนอราคาต้องเสียเงินมัดจำก่อนถึงจะให้❌
4. รับผิดชอบแก้ไขให้ตลอด ใช่ครับส่งงานให้แก้ไข..รับแก้ไข แต่ไม่มีกำหนดการแก้ไขงานเสร็จ (มันเจ๋งไหมไอ้พวกนี้ เล่าแล้วของขึ้น😤)❌
5. การสร้างรีวิว เช่น การสร้างรีวิวขึ้นมาเอง เพื่อหลอกลูกค้าโดยการสร้างความน่าเชื่อถือ จึงจะต้องพิจารณาให้ดีๆ เนียนบ้างไม่เนียนบ้าง ❌
6. หลักฐานการรับเงิน คือ หลักฐานยืนยันการชำระเงินที่น่าเชื่อถือมีผลตามกฎหมาย การที่เปิดเป็นบริษัทจำกัด มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่โกง
ต้องรอบคอบและระมัดระวัง❌
7. สมเหตุสมผล เช่น ทำบท 1-3 ร้านก็ให้มาบท 1-3 ถูกไหม(!!) (ไม่ถูก❌ แล้วบรรณานุกรรมกูล่ะ(!?)) คิดเงินเพิ่ม😳(!!)พล้างๆ 😬+เสียงตกใจ!!!! อันนี้ก็ระวังร้านแบบนี้ไว้❌
8. น้ำใจ คือ ความรู้สึกที่ลูกค้ารู้สึกได้ถึงน้ำใจของร้านที่มอบให้ในเรื่องต่างๆ ✔
ก็อาจมีมากกว่านี้อีกนะครับแต่ข้างต้นผมก็วิเคราะห์จากสถานการณ์และประสบการณ์ที่ผมได้เจอ ✔สิ่งสำคัญที่สุดคือการตัดสินใจอย่างรอบคอบจากข้อมูลที่มี
และสิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ความรับผิดชอบของตัวท่านเอง ที่จะต้องเข้าใจในงานวิจัยของท่าน สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีมุมมองที่ต่างออกไป เพื่องานที่ดี
👉สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์ในสากลโลกจงดลบันดาลให้ทุกท่านโชคดี มีความสุขตลอดปี 2563 สาธุใหญ่ๆ🙏
ปล. จะให้ดีทำที่นี่ก็แล้วกัน...😁😁
คนเราก็คงจะมีบางสิ่งหรือบางเรื่องที่ทำให้เราเกิดอาการหัวร้อน😡 เช่น โดนด่า โดนนินทา โดนตบ ดูถูก โอ๊ยอีกเป็นล้านเรื่อง
🤔แต่สำหรับผมคือ โดนหลอกหรือเสียรู้ เช่น แชร์ลูกโซ่ ซื้อของแล้วโดนโกง ตกทอง เหตุการณ์อะไรประมาณนี้ (ตัวอย่างที่ยกมา..ก็ยังไม่เคยนะครับ 555 อยู่รอดปลอดภัยมาได้)
และเวลาลูกค้าติดต่อเรื่องวิทยานิพนธ์ ลูกค้าก็จะเล่าประสบการณ์โดนโกง โดนเท โดนถ่วง และอีกหลายเรื่อง พอผมได้ฟังผมก็รู้สึกว่ามันขัดใจ😡😤
มันหงุดหงิดติดอยู่ในใจผมไม่รู้เพราะอะไร
ตอนที่ผมเริ่มธุรกิจ Thesis DD📚 ผมก็🕵️♂สืบค้นรับทำวิจัย ลองถามที่รับทำวิทยานิพนธ์ เช็คตลาด ก็มีร้านรับทำวิทยานิพนธ์ที่ดีอยู่บ้าง..ร้านที่ดูแล้วแปลกๆ ก็เยอะ
ซึ่งผมก็ได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์🤔กับ ดร.มนัสยา จนได้ข้อสรุปหรือแนวทางการเลือกร้านทำวิจัย ดังนี้ (จริงๆ แล้วผมต้องเชียร์ Thesis DD ดิ โถ่เอ้ย..😁😃😅)
1. รีบร้อน รวบรัด มักมีพิรุธ เช่น เร่งให้เราตัดสินใจจนเกินเหตุ อ้างเหตุผลงานเดียวงานเยอะรีบวางมัดจำจะได้จองคิว เดี๋ยวไม่ทัน บร่าๆๆๆ❌
2. คำพูด การอ้างประสบการณ์ โฆษณาเกินจริง เช่น บางร้านไม่แก้ไขงานให้ลูกค้าเพราะว่าคุณภาพงานดีมาก หรือประสบการณ์มากกว่าพันปี
ทีมงานคุณภาพเวอร์❌ ข้อนี้ผมบอกเลยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำวิจัย คือ อาจารย์ที่ปรึกษาหลัก ที่เป็นคนกำหนดทิศทางให้นักศึกษา✔
3. เอาเปรียบ คือ การเสนอราคาให้ทราบ โดยต้องมีการตอบตกลงทั้งสองฝ่ายถึงจะวางมัดจำได้ บางที่ใช้การขอเบอร์โทรคุยลูกค้าอาจคิดว่า
ดีที่ได้มีการพูดคุย แต่สุดท้ายเงื่อนไขต่างๆ ร้านไม่ได้ทำให้ เราก็ไม่มีหลักฐานสุดท้ายก็เจ็บ หรือแค่ขอใบเสนอราคาต้องเสียเงินมัดจำก่อนถึงจะให้❌
4. รับผิดชอบแก้ไขให้ตลอด ใช่ครับส่งงานให้แก้ไข..รับแก้ไข แต่ไม่มีกำหนดการแก้ไขงานเสร็จ (มันเจ๋งไหมไอ้พวกนี้ เล่าแล้วของขึ้น😤)❌
5. การสร้างรีวิว เช่น การสร้างรีวิวขึ้นมาเอง เพื่อหลอกลูกค้าโดยการสร้างความน่าเชื่อถือ จึงจะต้องพิจารณาให้ดีๆ เนียนบ้างไม่เนียนบ้าง ❌
6. หลักฐานการรับเงิน คือ หลักฐานยืนยันการชำระเงินที่น่าเชื่อถือมีผลตามกฎหมาย การที่เปิดเป็นบริษัทจำกัด มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่โกง
ต้องรอบคอบและระมัดระวัง❌
7. สมเหตุสมผล เช่น ทำบท 1-3 ร้านก็ให้มาบท 1-3 ถูกไหม(!!) (ไม่ถูก❌ แล้วบรรณานุกรรมกูล่ะ(!?)) คิดเงินเพิ่ม😳(!!)พล้างๆ 😬+เสียงตกใจ!!!! อันนี้ก็ระวังร้านแบบนี้ไว้❌
8. น้ำใจ คือ ความรู้สึกที่ลูกค้ารู้สึกได้ถึงน้ำใจของร้านที่มอบให้ในเรื่องต่างๆ ✔
ก็อาจมีมากกว่านี้อีกนะครับแต่ข้างต้นผมก็วิเคราะห์จากสถานการณ์และประสบการณ์ที่ผมได้เจอ ✔สิ่งสำคัญที่สุดคือการตัดสินใจอย่างรอบคอบจากข้อมูลที่มี
และสิ่งสำคัญกว่านั้นคือ ความรับผิดชอบของตัวท่านเอง ที่จะต้องเข้าใจในงานวิจัยของท่าน สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีมุมมองที่ต่างออกไป เพื่องานที่ดี
👉สุดท้ายนี้ก็ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์ในสากลโลกจงดลบันดาลให้ทุกท่านโชคดี มีความสุขตลอดปี 2563 สาธุใหญ่ๆ🙏
ปล. จะให้ดีทำที่นี่ก็แล้วกัน...😁😁
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)